สถานการณ์ไฟใต้ครบรอบ 21 ปี กับโจทย์ใหญ่ที่ “หัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนใต้” คนใหม่ต้องเผชิญ หลังเกิดเหตุการณ์อุกอาจ กลุ่มคนร้ายบุกปล้นทองรูปพรรณน้ำหนัก 600 บาท มูลค่ากว่า 36 ล้านบาท จากห้างทองเยาวราชกรุงเทพ สาขาบิ๊กซี สุไหงโก-ลก เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2568 เวลา 18.30 น. โดยคนร้ายใช้รถกระบะ 2 คันที่ปล้นมาในการก่อเหตุ
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงเปลี่ยนผ่านผู้บังคับบัญชาระดับสูงหลายตำแหน่ง ทั้งผู้ว่าราชการจังหวัด, ผู้บังคับการตำรวจ, ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินภาคใต้, ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส รวมถึงแม่ทัพภาคที่ 4 ซึ่งมีการส่งมอบตำแหน่งให้ พลตรี นรธิป โพยนอก ขึ้นเป็น “แม่ทัพภาค 4” และ “ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4” โดยมีภารกิจเร่งด่วนนอกพื้นที่ ทำให้ พลตรี ชาคริต อุจะรัตน รองแม่ทัพภาคที่ 4 ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุการณ์ พร้อมสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัย ตั้งจุดตรวจจุดสกัด และปิดช่องทางธรรมชาติเพื่อป้องกันการหลบหนีข้ามแดน
สถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น สอดคล้องกับรายงานข่าวว่ากลุ่ม BRN ประสบปัญหาขาดแคลนงบประมาณสนับสนุน ทำให้สมาชิกที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการก่อเหตุได้รับผลกระทบ ต้องหาเงินเพื่อความอยู่รอด โดยหลังก่อเหตุปล้นทอง คนร้ายได้โปรยตะปูเรือใบและวางระเบิดเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ ใช้เวลาก่อเหตุเพียง 10.42 นาที ก่อนทิ้งรถไว้ที่สวนปาล์ม อำเภอแว้ง ซึ่งคาดว่าใช้เป็นเส้นทางหลบหนีข้ามแดน
ประเด็นการส่งผู้ร้ายข้ามแดน และข้อตกลงยุติความรุนแรงโดยตัดประเด็นแบ่งแยกดินแดนออกไป กลายเป็นโจทย์ท้าทายของ “พลเอก สมศักดิ์ รุ่งสิตา” หัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนใต้คนใหม่ ที่ต้องหาทางเจรจาโดยปราศจากมือที่สาม เพื่อหาข้อยุติให้กับปัญหาความขัดแย้งที่ยืดเยื้อ หวังว่าจะไม่มีการล้มโต๊ะเจรจาอีก เพื่อไม่ให้ 3 จังหวัดชายแดนใต้ต้องตกอยู่ในสภาพถูกแช่แข็งต่อไป
