คนละครึ่งพลัส! โชห่วยใต้สั่นคลอน? ร้านใหญ่เมินร่วม หวั่นภาษีพุ่ง

โครงการ “คนละครึ่งพลัส” เตรียมเริ่มตุลาคมนี้ เปิดให้ผู้มีอายุ 16 ปีขึ้นไปลงทะเบียน โดยนายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เผยเกณฑ์เฟสแรกแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 13 ล้านคน, ผู้ที่ไม่อยู่ในระบบภาษี 9 ล้านคน และผู้ที่อยู่ในระบบภาษี 11 ล้านคน

แม้ผู้เชี่ยวชาญจะเห็นด้วยกับการขยายโครงการไปยังร้านค้า Modern Trade เพื่อให้ครอบคลุมร้านค้านิติบุคคลและค้าปลีกส่งรายใหญ่ โดยมีเงื่อนไขว่าสินค้าต้องผลิตในไทยเท่านั้น และเน้นสินค้า SME เพื่อขยายฐานลูกค้าและลดภาระค่าครองชีพ

แต่ผู้ประกอบการและชาวบ้านกลับมองว่า Modern Trade ไม่ตอบโจทย์การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ แม้คนละครึ่งจะถูกใจประชาชน การอนุมัติให้ Modern Trade เข้าร่วมจะเพิ่มช่องทางการใช้จ่าย แต่ผู้ประกอบการรายใหญ่ต้องแบกรับภาษีที่สูงขึ้น “เคยเข้าร่วมแล้วต้องแบกรับภาษีเยอะมาก ครั้งนี้ไม่ร่วม เพราะขายตามปกติก็ขายดีอยู่แล้ว” ผู้ประกอบการรายหนึ่งกล่าว

นางณัฐคาวี อรุณสวัสดิ์ เจ้าของร้านอาหารตามสั่ง “เรืออวน” ปฏิเสธที่จะเข้าร่วม เพราะร้านเล็กๆ ขายอาหารราคาไม่แพง มองว่าไม่ได้ช่วยให้เงินหมุนเวียนหรือยอดขายดีขึ้น แถมยังเสียเวลาตรวจสอบการสแกนจ่าย

น.ส.ตั๊ก เจ้าของร้านเครื่องดื่ม ขอให้ช่วยสนับสนุนร้านโชห่วยเล็กๆ เพื่อให้มีรายได้เพิ่มขึ้น เพราะร้านเหล่านี้สามารถแลกซื้อได้ ทำให้เงินหมุนเวียน

นางปราณี เจ้าของร้านโชห่วยในซอยอดุลตานนท์ กล่าวว่าไม่สะดวกเข้าร่วม เพราะมีภาระเพิ่มและไม่มีคนช่วย จึงรับแค่สแกนอย่างเดียว ไม่ได้เข้าร่วมตั้งแต่แรก

น.ส.แจง ชาวบ้านที่รอคนละครึ่ง มองว่าจะยิ่งทำให้เศรษฐกิจแย่ลง แทนที่จะช่วยกลับเป็นการซ้ำเติมรายใหญ่ และทำให้ร้านโชห่วยเล็กๆ ตกต่ำลง จึงฝากถึงนายกฯ ให้แจกจ่ายอย่างเท่าเทียมและพร้อมกัน เพื่อให้ประชาชนพอใจและยอมรับสิ่งที่ได้รับ ไม่รู้สึกถึงความไม่เท่าเทียม