นครพนม – เกิดเรื่องฉาวสะเทือนวงการสงฆ์ เมื่อพระลูกวัดแห่งหนึ่งในตำบลท่าค้อ อำเภอเมืองนครพนม ถูกจับได้ว่าเสพยาบ้า หลังชาวบ้านทนพฤติกรรมแปลกประหลาดไม่ไหว แจ้งตำรวจเข้าตรวจสอบ

เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าวันที่ 24 กันยายน 2568 เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครพนม นำโดย พ.ต.ต.ศักดา ต้นจันทน์ รองสารวัตรปราบปราม ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพระลูกวัดมีอาการคล้ายคนเสพยา จึงรุดไปตรวจสอบ พบพระลิขิต อายุ 33 ปี อยู่ในอาการน่าสงสัย เมื่อสอบถามต่อหน้าพระอธิการชาติชาย โชติโก เจ้าอาวาส พระลิขิตยอมรับว่าเสพยาบ้าจริง
เจ้าหน้าที่จึงทำการสึกพระลิขิตทันที ก่อนนำตัวไปตรวจปัสสาวะที่ สภ.เมืองนครพนม ผลตรวจยืนยันว่ามีการเสพยาเสพติดจริง
จากการสอบสวน นายลิขิตให้การว่า เพิ่งบวชในช่วงเข้าพรรษาตามความต้องการของแม่ โดยตั้งใจบวชเพียงพรรษาเดียวเพื่อทดแทนบุญคุณ แต่ไม่สามารถเลิกยาเสพติดได้ จึงแอบซื้อยาบ้าจากผู้ปกครองที่มาส่งลูกในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กภายในวัด ในราคาเม็ดละ 50 บาท และแอบเสพในห้องน้ำหลังกุฏิ จนเกิดอาการผิดปกติ
พระลูกวัดรูปหนึ่งให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ตลอดเวลาที่พระลิขิตจำพรรษา มีพฤติกรรมก้าวร้าว ข่มขู่ทั้งพระและญาติโยม ทำให้ทุกคนในวัดและชาวบ้านหวาดระแวง เมื่อทราบว่ามีการเสพยาบ้าในวัด ยิ่งสร้างความเสื่อมเสีย เนื่องจากวัดดังกล่าวเป็นวัดเก่าแก่ที่ชาวบ้านเคารพนับถือ
เจ้าอาวาสกล่าวด้วยความเสียใจว่า เหตุการณ์นี้สร้างความเสียหายให้กับวัดเป็นอย่างมาก สะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบจากการที่พระสงฆ์ปล่อยตัวปล่อยใจไปกับยาเสพติด ซึ่งไม่เพียงทำลายตัวเอง แต่ยังบั่นทอนศรัทธาของพุทธศาสนิกชน
ปัจจุบัน นายลิขิตยินยอมเข้ารับการบำบัดยาเสพติด และยืนยันว่าจะไม่หวนกลับไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีก อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์นี้เป็นเครื่องเตือนใจถึงพิษภัยของยาบ้า ที่สามารถทำลายได้แม้กระทั่งผู้ที่อยู่ในผ้าเหลือง ซึ่งควรเป็นที่พึ่งทางใจของประชาชน
