สงขลา-สะเดา: ชันโรงจิ๋วสร้างรายได้งาม สู่สารสกัด “โพรโพลิส” มูลค่าสูง

นางสาวพนิตพิชา ปัจฉิมศิริ หรือ “บอล” เกษตรกรจากอำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ร่วมกับคุณแม่ สร้างฟาร์มสเตย์ผึ้งและชันโรง บนพื้นที่กว่า 3 ไร่ โดยรอบเป็นสวนมะพร้าว มะขาม สวนยางพารา และไม้ดอกนานาชนิด
ชันโรง หรือที่ชาวใต้เรียกว่า “อุง” เป็นแมลงตัวเล็กคล้ายผึ้ง แต่ไม่มีเหล็กใน ทำหน้าที่ผสมเกสรดอกไม้ได้ดีกว่าผึ้ง เนื่องจากขนาดเล็กกว่า ทำให้สามารถเข้าถึงดอกไม้ได้ทุกชนิด น้ำหวานจากชันโรงก็มีคุณสมบัติพิเศษที่เหนือกว่าน้ำผึ้งทั่วไป
ฟาร์มแห่งนี้เลี้ยงชันโรงมาเป็นปีที่ 4 แล้ว ปัจจุบันมีชันโรงประมาณ 120 ลัง ส่วนใหญ่เป็นพันธุ์ขนเงิน (ตัวเล็ก) และมีพันธุ์ปากหมู (ตัวใหญ่) จำนวน 5 ลัง ซึ่งให้ผลผลิตน้ำหวานได้ง่ายกว่า การดูแลชันโรงคือการปลูกไม้ดอกให้ชันโรงหากินตามธรรมชาติ โดยไม่ใช้สารเคมีใดๆ

สิ่งที่น่าสนใจคือ การนำกากชันโรง หรือ “ขี้ชัน” ซึ่งเดิมทีไม่มีมูลค่า มาสกัดเป็นสาร “โพรโพลิส” ด้วยเครื่องสกัดคลื่นไมโครเวฟ โดยได้รับการสนับสนุนจากสถาบันวิจัยและนวัตกรรมอาหาร มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) วิทยาเขตหาดใหญ่ และตรวจสอบคุณภาพโดยสำนักเครื่องมือวิทยาศาสตร์และการทดสอบ ม.อ. เช่นกัน
สารสกัด “โพรโพลิส” จากชันโรง มีราคาสูงถึงลิตรละ 10,000 บาท ทางฟาร์มได้นำมาเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ดูแลสัตว์เลี้ยง เช่น สเปรย์อาบน้ำแห้ง ซึ่งถือเป็นผลิตภัณฑ์ “ซิกเนเจอร์” และกำลังเข้าแข่งขันในโครงการนวัตกรรมแห่งชาติ โดยมีความโดดเด่นคือ เป็นผลิตภัณฑ์สเปรย์อาบน้ำแห้งสำหรับสัตว์เลี้ยงรายแรกในประเทศไทย ที่มีส่วนผสมของสารสกัด “โพรโพลิส” จากชันโรง
นอกจากนี้ ทางฟาร์มยังได้รับการสนับสนุนจาก NIA (สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ) เพื่อผลักดันให้เป็นผู้ผลิตสาร “โพรโพลิส” จำหน่ายในอนาคต
“บอล” กล่าวว่า แม้การเลี้ยงชันโรงอาจไม่คุ้มทุนในแง่ธุรกิจ เนื่องจากให้ผลผลิตน้ำผึ้งน้อย แต่การนำกากชันโรงมาสกัดเป็นสาร “โพรโพลิส” ได้สร้างมูลค่าเพิ่มอย่างมหาศาล ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ของฟาร์มภายใต้แบรนด์ “BEE BUDDY” อยู่ภายใต้วิสาหกิจชุมชนนวัตกรรมชันโรง ซึ่งมีเพียง 2 แห่งในอำเภอสะเดา
ฟาร์มสเตย์ผึ้งและชันโรงแห่งนี้ ยังเป็นแหล่งเรียนรู้และจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากชันโรง ผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 087 632 2649 และ 064 889 4251

แหล่งที่มา: คลิกดูต้นฉบับ