ภาคเอกชนขานรับนโยบายรัฐบาล “อนุทิน ชาญวีรกูล” นายกรัฐมนตรี หวังช่วยลดภาระต้นทุนที่พุ่งสูงขึ้นไม่หยุด หลังพบต้นทุนแฝงจากนโยบายการเมืองและกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการเติบโตของผู้ประกอบการ ซ้ำร้ายยังต้องเผชิญกับการแข่งขันจากกลุ่มทุนต่างชาติที่เข้ามาแย่งชิงทั้งด้านการผลิตและการจ้างงานนอกระบบ โดยที่ผ่านมาขาดการตรวจสอบจากหน่วยงานรัฐอย่างจริงจัง

นายสุกัณฑ์ โสรัจจกิจ ประธานสภาอุตสาหกรรมฉะเชิงเทรา กล่าวถึงนโยบายที่นายอนุทินแถลงต่อรัฐสภาว่า ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมคาดหวังความจริงใจและจริงจังจากรัฐบาล โดยเฉพาะผู้ประกอบการไทย พร้อมชื่นชมนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม พลังงานทดแทน และการประหยัดพลังงาน ที่หากรัฐบาลให้ความช่วยเหลืออย่างจริงจัง จะช่วยลดต้นทุนและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในเวทีโลกได้
นายสุกัณฑ์เน้นย้ำถึงปัญหาที่ผู้ประกอบการไทยในกลุ่มจังหวัด EEC (ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง) กำลังเผชิญ ทั้งเรื่องค่าแรง 400 บาท และการเข้ามาของทุนสีเทาที่ไม่ได้เป็นคู่ค้า แต่กลับเข้ามาเป็นคู่แข่ง นอกจากนี้ ยังมีกฎหมายแรงงานหลายฉบับที่เป็นเหมือนกับดัก เช่น นโยบายลดเวลาทำงานจาก 48 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ เหลือ 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ซึ่งทำให้เวลาทำงานของแรงงานลดลง แต่รายจ่ายของผู้ประกอบการยังคงเท่าเดิม ส่งผลให้ค่าแรงแฝงเพิ่มสูงขึ้น

นายสุกัณฑ์ยังแสดงความกังวลเกี่ยวกับวันหยุดที่เพิ่มมากขึ้น ทั้งวันหยุดประจำสัปดาห์ วันหยุดประจำเดือนสำหรับผู้หญิง วันหยุดลาดูแลผู้ใกล้ชิด วันลาคลอดบุตร และวันหยุดพักร้อน ซึ่งหากกฎหมายเหล่านี้มีผลบังคับใช้จริง จะทำให้ผู้ประกอบการต้องแบกรับภาระอย่างหนัก เพราะต้องจ่ายค่าจ้างแต่ไม่มีคนทำงาน
นอกจากนี้ นายสุกัณฑ์ยังกล่าวถึงปัญหาการตรวจสอบโรงงาน รง.105 และ 106 ที่เข้มงวดเกินไป ทั้งที่โรงงานเหล่านี้ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม แต่กลับถูกละเลยการตรวจสอบกลุ่มทุนสีเทาและโรงงานเถื่อนที่ลักลอบทิ้งกากของเสีย
ในส่วนของค่าแรง นายสุกัณฑ์เสนอว่าค่าแรงพื้นฐานที่เหมาะสมควรอยู่ที่ 300-350 บาท และต้องเท่ากันทั่วประเทศ เพื่อให้เกิดการแข่งขันที่เป็นธรรม การปรับค่าแรงพื้นฐานให้สูงขึ้น ทำให้ค่าแรงของผู้ที่มีความรู้ความสามารถต้องสูงขึ้นตามไปด้วย ซึ่งเป็นภาระที่ผู้ประกอบการต้องแบกรับ
นายสุกัณฑ์คาดหวังว่ารัฐบาลชุดนี้จะเข้ามาช่วยผู้ประกอบการไทย โดยนำความจริงมาพูดคุยกัน และไม่ใช้นโยบายหาเสียงแบบรัฐบาลในอดีต พร้อมทั้งเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือคนไทยก่อน โดยเปลี่ยนจากทุนต่างชาติที่เข้ามาเป็นคู่แข่ง ให้มาเป็นคู่ค้าแทน