สงขลา-สะเดา: วิกฤตภัยแล้งเล่นงาน! ปลานิลในกระชังตายเกลื่อน เกษตรกรสะเดาขาดทุนยับ

เกษตรกรผู้เลี้ยงปลานิลในกระชัง บ้านม่วงก็อง ต.พังลา อ.สะเดา จ.สงขลา กำลังเผชิญหน้ากับสถานการณ์สุดวิกฤต ปัญหาภัยแล้งทำให้น้ำในคลองอู่ตะเภาลดฮวบ ปลาขาดออกซิเจนทยอยตายยกกระชัง สร้างความเสียหายให้เกษตรกรแต่ละรายนับแสนบาท
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจ พบว่าปริมาณน้ำในคลองเหลือน้อยมาก บางช่วงตื้นเขินจนเรือสัญจรไม่ได้ บริเวณที่ตั้งกระชัง ระดับน้ำลดลงจนเห็นพื้นดิน ปลาขนาดราว 1 กิโลกรัม ลอยตายส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง

นายชำนาญ ชุมประยูร ประธานกลุ่มผู้เลี้ยงปลาในกระชัง เผยว่า สมาชิกกลุ่มได้รับผลกระทบแล้ว 3-4 ราย แต่ละรายสูญเงินลงทุนไปหลายแสนบาท และไม่สามารถนำปลาที่ตายไปขายได้ เนื่องจากปลาเน่าเสียตั้งแต่ลอยขึ้นมา
เบื้องต้น กรมประมง คลองหอยโข่ง ได้เข้าตรวจสอบและเก็บตัวอย่างน้ำไปวิเคราะห์แล้ว ส่วนการช่วยเหลือเพิ่มเติมนั้น ได้ประสานไปยังเขื่อนห้วยคู ให้เร่งระบายน้ำเพื่อบรรเทาปัญหา ซึ่งนายปพน รักษ์ศรี หัวหน้าฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษาที่ 1 โครงการชลประทานสงขลา แจ้งว่าได้เพิ่มการระบายน้ำจาก 60,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน เป็น 120,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน และคาดว่าน้ำจะไหลไปถึงพื้นที่ประสบภัยภายในคืนนี้ (26 กันยายน 2568)
อย่างไรก็ตาม เกษตรกรในพื้นที่เรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง วางแผนแก้ไขปัญหาระยะยาว โดยเสนอให้ขุดสันดอนกลางคลอง ยาวประมาณ 500 เมตร เพื่อเพิ่มพื้นที่กักเก็บน้ำ และป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยในอนาคต
