มิติใหม่! มช. เปิดหอผู้ป่วยหนักหัวใจ-หลอดเลือดสมอง มาตรฐานสากล

คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) เปิดตัวหอผู้ป่วยหนักโรคหัวใจและหลอดเลือด และหอผู้ป่วยวิกฤตโรคหลอดเลือดสมองโฉมใหม่ อาคารศรีพัฒน์ เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2568 เพื่อเพิ่มศักยภาพในการดูแลผู้ป่วยให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

รศ.นพ.นเรนทร์ โชติรสนิรมิต คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มช. กล่าวว่า การปรับปรุงครั้งนี้มีความจำเป็น เนื่องจากหอผู้ป่วยเดิมใช้งานมานาน ทำให้โครงสร้างและระบบต่างๆ เริ่มทรุดโทรม รวมถึงพื้นที่ไม่เพียงพอต่อจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น การปรับปรุงใหม่นี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Save Sujinno โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับการดูแลรักษาให้ได้มาตรฐานระดับสากล

รศ.พญ.อรินทยา พรหมมินธิกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ กล่าวว่า หอผู้ป่วยหนักโรคหัวใจและหลอดเลือด (CCU) ชั้น 8 อาคารศรีพัฒน์ เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2541 เป็นเวลากว่า 26 ปี ทำให้โครงสร้างเสื่อมสภาพ เนื่องจากเป็นหอผู้ป่วยที่ดูแลผู้ป่วยโรคหัวใจเฉียบพลัน เช่น กล้ามเนื้อหัวใจตาย หัวใจเต้นผิดจังหวะ และภาวะหัวใจล้มเหลว ซึ่งต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด ทำให้มีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาจำนวนมาก เฉลี่ยปีละ 450-500 คน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น การปรับปรุงครั้งนี้จะช่วยรองรับการขยายบริการ เช่น การดูแลผู้ป่วยเปลี่ยนถ่ายหัวใจ และการฟื้นฟูสมรรถภาพหัวใจอย่างครบวงจร

การปรับปรุงประกอบด้วยการปรับปรุงโครงสร้างอาคาร ระบบพื้นฐาน ระบบไฟฟ้า แสงสว่าง ระบบปรับอากาศและระบายอากาศให้ได้มาตรฐานควบคุมการติดเชื้อ ปรับปรุงระบบก๊าซทางการแพทย์และระบบไฟฟ้าสำรอง ขยายพื้นที่ให้เหมาะสมกับการบริการ รองรับผู้ป่วยได้ 12 เตียง จัดหาเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัย และติดตั้งระบบความปลอดภัย เช่น ระบบเรียกพยาบาล

ผศ.นพ.สุรัตน์ ตันประเวช เลขานุการและกรรมการบริหาร ศูนย์โรคสมองภาคเหนือ กล่าวว่า หอผู้ป่วยวิกฤตโรคหลอดเลือดสมอง ชั้น 9 อาคารศรีพัฒน์ เปิดให้บริการมา 17 ปี เริ่มต้นด้วย 4 เตียง และเพิ่มเป็น 6 เตียง รองรับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองประมาณ 300-350 รายต่อปี การปรับปรุงครั้งนี้จะเพิ่มศักยภาพในการดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองและระบบประสาท โดยเพิ่มเตียงจาก 6 เป็น 12 เตียง จัดระยะห่างระหว่างเตียงตามมาตรฐาน ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ แบ่งพื้นที่ให้มีความเป็นส่วนตัว มีห้อง Neuro monitoring และห้องแยกสำหรับผู้ป่วยติดเชื้อดื้อยา

รศ.นพ.นเรนทร์ โชติรสนิรมิต กล่าวทิ้งท้ายว่า การปรับปรุงหอผู้ป่วยทั้งสองแห่งนี้ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ ทำให้ผู้ป่วยได้รับการบริการที่รวดเร็ว ลดการรอคอยเตียง และเพิ่มโอกาสรอดชีวิตจากภาวะหัวใจและหลอดเลือดสมอง รวมถึงญาติและผู้ดูแลจะได้รับความสะดวกสบายและความปลอดภัยตามมาตรฐานสากล ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของคณะแพทยศาสตร์ มช. ในการเป็น “โรงเรียนแพทย์ในดวงใจ เพื่อความยั่งยืนด้านสุขภาวะ ด้วยนวัตกรรม”